Blog

สมาธิกับการทำงาน – วิธีเพิ่มประสิทธิภาพงานและลดความเครียด

nursing

สมาธิกับการทำงาน – วิธีเพิ่มประสิทธิภาพงานและลดความเครียด

Student blog — 06/08/2025

สมาธิกับการทำงาน – วิธีเพิ่มประสิทธิภาพงานและลดความเครียด
สมาธิกับการทำงาน: เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพของงาน
ในยุคที่การทำงานเต็มไปด้วยความเร่งรีบและการแข่งขัน การรักษาสมาธิในการทำงานเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพและประสิทธิภาพของงานให้ดียิ่งขึ้น สมาธิหมายถึงการตั้งใจอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยจิตที่สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน โดยเฉพาะเมื่อนำมาใช้กับการทำงาน จะช่วยให้เราโฟกัสกับงานที่กำลังทำได้เต็มที่ ลดการวอกแวก และทำให้ตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น สมาธิในบริบทของการทำงาน จึงเป็นภาวะของจิตที่ตั้งมั่นกับเนื้องานตรงหน้าอยู่ตลอดเวลา โดยไม่มีสิ่งรบกวนใจหรือความคิดภายนอกมาทำให้ฟุ้งซ่าน การมีสมาธิจดจ่อนี้ช่วยให้เราทำงานได้มีคุณภาพขึ้น เพราะเมื่อตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เราจะเข้าใจงานชิ้นนั้นอย่างลึกซึ้ง และลดข้อผิดพลาดได้

ประโยชน์ของสมาธิต่อการทำงาน

  • เพิ่มความคิดสร้างสรรค์และสมาธิ: การฝึกสมาธิช่วยให้สมองผ่อนคลาย ลดความเครียด ส่งผลให้ความคิดโล่ง มีแนวโน้มคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มากขึ้น นอกจากนี้สมาธิยังช่วยให้เราจดจ่อกับงานได้ดียิ่งขึ้น ลดสิ่งรบกวน (distraction) จนทำงานเสร็จรวดเร็วกว่าเดิม
  • ตัดสินใจได้ดีและแม่นยำขึ้น: เมื่อจิตใจสงบ สมาธิคมชัดขึ้น เราจะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสถานการณ์ต่าง ๆ ได้รอบคอบกว่าการทำงานแบบรีบเร่งหรือตื่นตระหนก ส่งผลให้การตัดสินใจมีคุณภาพมากขึ้น
  • ลดความผิดพลาด: งานวิจัยจาก Cleveland Clinic พบว่าการพยายามทำหลายงานพร้อมกัน (multitasking) ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงและมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการทำงานทีละอย่างด้วยสมาธิจึงช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความถูกต้องในการทำงาน
  • สุขภาพจิตในการทำงานดีขึ้น: สมาธิช่วยควบคุมอารมณ์ ลดความเครียด และสร้างความสงบในจิตใจ ส่งผลให้พนักงานรู้สึกผ่อนคลาย มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น รวมถึงมีความพร้อมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ในการทำงานได้อย่างมีสติ

วิธีฝึกสมาธิในระหว่างวันทำงาน

  • หายใจลึก ๆ: หากรู้สึกตึงเครียดหรือฟุ้งซ่าน ลองใช้เวลาสัก 2–5 นาที หายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ การหายใจอย่างมีสติช่วยปรับสมดุลร่างกายและจิตใจ ทำให้ผ่อนคลายและกลับมามีสมาธิได้ดีขึ้น
  • ทำงานทีละอย่าง: จัดลำดับความสำคัญของงาน และมุ่งโฟกัสทีละชิ้นให้เสร็จเรียบร้อย หลีกเลี่ยงการสลับไปมา (multitasking) เพราะการทำงานหลายอย่างพร้อมกันจะทำให้เกิดความฟุ้งซ่านง่าย และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในงานเพิ่มมากขึ้น
  • พักสั้น ๆ เป็นช่วง (Pomodoro Technique): แบ่งเวลาทำงานเป็นช่วง ๆ เช่น ทำงานต่อเนื่อง 25 นาที แล้วพัก 5 นาที เทคนิคนี้ช่วยให้สมองไม่รู้สึกล้าเกินไป ในช่วงพักให้ลองลุกเดินยืดเส้น หรือนั่งหลับตาสักครู่ พร้อมกับหายใจลึก ๆ เพื่อเพิ่มความสงบและสมาธิ
  • ฝึกสมาธิสั้น ๆ ระหว่างวัน: แม้จะมีเวลาเพียง 5–10 นาที ลองนั่งสมาธิหรือทำโยคะเบา ๆ ในที่ทำงาน วิธีนี้ช่วยให้ร่างกายและจิตใจสดชื่น พร้อมรับมือกับงานต่อไปได้ดีขึ้น
ด้วยประโยชน์มากมายด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการส่งเสริมสุขภาพจิตในการทำงาน จึงขอเชิญชวนบุคลากรทุกคนในองค์กร หันมาใส่ใจการฝึกสมาธิระหว่างการทำงาน สร้างบรรยากาศการทำงานที่สนับสนุนการมีสติและสมาธิร่วมกัน เพื่อให้งานออกมามีคุณภาพสูงขึ้น รวมถึงมีสุขภาพจิตที่เข้มแข็งพร้อมรับมือทุกความท้าทาย

อ้างอิง
กาญจนา หาญศรีวรพงศ์ และพระมหามิตร ฐิตปญฺโญ (2562) สมาธิกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์ วารสารวิชาการธรรมทรรศน์ 19(1): 287-295.
https://health.clevelandclinic.org/science-clear-multitasking-doesnt-work
https://news.msu.ac.th/msumagaz/smain/readpost.php?mid=631#:~:text

เขียนโดย : อาจารย์นวพร มามาก คณะพยาบาลศาสตร์

แชร์บทความนี้

หลักสูตร

คณะพยาบาลศาสตร์  

ทั้งหมด

*

** คุณสมบัติผู้ขอกู้ กยศ.

*

** คุณสมบัติผู้ขอกู้ กยศ.