Blog

ออฟฟิศซินโดรม – ตาล้า – ปวดหลัง โรคฮิตของคนติดจอที่คุณควรระวัง

nursing

ออฟฟิศซินโดรม – ตาล้า – ปวดหลัง โรคฮิตของคนติดจอที่คุณควรระวัง

Student blog — 12/06/2025

ออฟฟิศซินโดรม – ตาล้า – ปวดหลัง  โรคฮิตของคนติดจอที่คุณควรระวัง

ปัญหาสุขภาพของคนติดจอ

ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอยู่ในยุคของสังคมดิจิทัล ที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตและสื่อดิจิทัลผ่านการใช้จอคอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลาย ดังนั้นจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จากอันตรายและผลกระทบในแง่มุมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงด้านสุขภาพ เพื่อป้องกัน หลีกเลี่ยง เราจึงต้องเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการลดผลกระทบดังกล่าว เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในยุคดิจิทัลได้

สุขภาพของคนติดจอ

ปัญหาสุขภาพจากการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ

  • ออฟฟิศซินโดรม มักเกิดจากการที่ต้องนั่งทำงานตลอดเวลา ไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ ปวดขมับ ปวดเบ้าตา ปวดหลัง อาจมีอาการปวดร้าวไปยังบริเวณอื่น ๆ หรือ ชาบริเวณข้อมือ หรือ ชาลงขา
  • ผลกระทบต่อสุขภาพตา ทำให้เกิดอาการ ตาแห้ง แสบเคืองตา ปวดกระบอกตา ตาล้า สู้แสงไม่ได้ โฟกัสได้ช้า หรือ ตาพร่ามัว มีค่าสายตาสั้นเพิ่มขึ้น ซี่งสัมพันธ์กับระยะเวลาการใช้คอมพิวเตอร์อีกด้วยเนืื้อ ปวดไหล่ และต้นคอได้
วิธีการป้องกัน
  • ปรับสถานที่และโต๊ะที่นั่งทำงานคอมพิวเตอร์
    • ระยะห่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ถึงระดับสายตา ควรห่างประมาณ 20 – 28 นิ้ว
    • ปรับระดับหน้าจอให้ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 5 – 6 นิ้ว เพื่อให้ศีรษะตั้งตรง สายตาอยู่ในท่ามองลงต่ำเล็กน้อย จะช่วยลดการเปิดกว้างของตา ช่วยลดอาการตาแห้ง ปวดคอ ปวดไหล่ จากการก้มหรือเงยที่มากเกินไปได้
    • แป้นพิมพ์และเม้าส์ ควรอยู่ต่ำกว่าระดับข้อศอก และวางในระยะที่ใกล้ตัวที่ใช้งานได้สบาย ไม่เหยียดแขน สามารถใช้ที่รองข้อมือ เพื่อช่วยลดอาการเมื่อยล้าได้
    • ระดับเก้าอี้ที่นั่ง ควรปรับให้ เท้าวางอยู่บนพื้น เข่าตั้งฉาก หรือทำมุม > 90 องศากับพื้น
    • เก้าอี้ควรมีพนักพิงที่เหมาะสม สามารถนั่งพิงในระดับหลังตรง ที่พิงหลังสามารถ พยุงกล้ามเนื้อหลังและไหล่ได้
    • ที่วางเอกสารควรอยู่ในระดับสายตา ระยะใกล้กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อลดการขยับศีรษะหรือก้มเงยบ่อยๆ ช่วยลดการปรับโฟกัสของตา ลดอาการตาล้า และลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้
  • ปรับหน้าจอคอมพิวเตอร์
    • ปรับความสว่างของหน้าจอ ไม่จ้ามากเกินไปจนแสบตา
    • ปรับสีของตัวอักษรให้ตัวอักษรมีสีเข้ม อยู่บนพื้นสว่าง
    • ใช้แผ่นกรองแสงติดหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยลดแสงจ้าและแสงสะท้อนจึงมองภาพได้สบายตา ลดอาการตาล้าได้
  • ระดับการนั่งหน้าจอ

  • ปรับแสงสว่างในห้องทำงาน
    • ปิดม่านเพื่อลดแสงสว่างจากภายนอก เนื่องจากแสงจ้าจะทำให้เกิดแสงสะท้อนที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำให้มองภาพได้ไม่คมชัด ต้องเพ่งมากขึ้น
    • ติดโคมไฟที่โต๊ะทำงาน ให้มีระดับความสว่างอยู่ระดับเดียวกับหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยให้มองเอกสารได้สบายตามากขึ้น
  • การพักสายตาระหว่างการทำงานอย่างสม่ำเสมอ ควรมีการพักสายตาหลังจากนั่งทำงานไป 20 นาที โดยพัก 20 วินาที อาจใช้วิธีหลับตา หรือ มองโฟกัสในระยะไกลที่ 20 ฟุต จะเป็นการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตาได้หลังจากนั่งทำงานต่อเนื่องกัน 2 ชั่วโมง ควรหยุดพัก 15 นาที โดยลุกเดิน
  • การยืดเส้นสายระหว่างวัน

  • ใช้แว่นสายตาที่เหมาะสม เพราะการสวมแว่นสายตาที่ผิดไปจากค่าสายตาจริง ทำให้การโฟกัสภาพได้ยาก ภาพไม่คมชัด เกิดอาการปวดกระบอกตาและปวดศีรษะได้
  • ใส่แว่นช่วยกรองแสง

แชร์บทความนี้
โปรโมชั่นแนะนํา

หลักสูตร

คณะพยาบาลศาสตร์  

ทั้งหมด

*

** คุณสมบัติผู้ขอกู้ กยศ.

*

** คุณสมบัติผู้ขอกู้ กยศ.